กันแดดทา 2 ข้อนิ้ว ไม่วอกไม่เย้ม
มีใครเคยเจอปัญหาทากันแดด เวลาออกแดดแล้วเจอปัญหา วอก เยิ้ม กันแดดหลุด หน้ากำลังปังแต่พังเพราะกันแดดมาบ้างค่ะ ให้ยกมือรวมกันไว้ตรงนี้เลยค่ะ สำหรับแอดแล้ว เคยเจอกันแดดที่ทาแล้วไม่รอดมาเยอะมาก ๆ เลยค่ะ ก่อนอื่นเลยเรามาทำความรู้จักกันแดดคร่าว ๆ กันก่อนนะคะ
สำหรับสายบิวตี้นั้นแล้วคงจะรู้ว่ากันแดด เป็นตัวช่วยปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ การสูญเสียน้ำ และการเกิดริ้วรอยได้ดีที่สุด แต่คำถามที่ตามมา และพบบ่อยมากที่สุดคือแล้วจะต้องอย่างไรจึงจะถูกต้องและช่วยป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด จึงเกิดข้อถกเถียงกันว่า ทากันแดด 2 ข้อนิ้ว นั้นมักเกิดการเหนียวเหนอะหนะ หลาย ๆ คนจึงมีการทาเพียงแค่ส่วนนึงเพื่อที่จะไม่ให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะเกินไป
ปริมาณการทาครีมกันแดด ควรทาในปริมาณที่หนา คือ ปริมาณ 2 มิลลิกรัมต่อ 1 ตารางเซนติเมตรของผิวหนัง หรือสำหรับผิวหนังบริเวณใบหน้าใช้ในปริมาณ 2 ข้อนิ้วมือนั่นเอง และลำคอใช้ในปริมาณ 1 ช้อนชา
คำถามที่พบบ่อยอีกข้อคือ ทาแค่ครั้งเดียวตอนเช้าเพียงพอหรือไม่ ก็ยังเป็นคำถามยอดฮิตอยู่เสมอ สิ่งที่ควรทำคือ ควรเริ่มทาครีมกันแดดก่อนออกแดด 15 นาทีและทาซ้ำทุก 2 ชม. หากต้องอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน
วิธีเลือกครีมกันแดด
การทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง ควรเริ่มตั้งแต่วิธีเลือกครีมกันแดด เนื่องจากรังสียูวีมีทั้ง UVA ที่ทำให้เกิดผิวแห้งกร้านและริ้วรอยก่อนวัยอันควร UVB เป็นสาเหตุให้ผิวไหม้แดด และ UVC ที่ไม่สามารถส่องผ่านมาถึงโลกได้ ดังนั้นเราจึงควรเลือกครีมกันแดดที่สามารถป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB
1. ค่า SPF (Sun Protective Factor) บ่งบอกถึงการป้องกัน UVB โดยถ้าใช้ SPF สูงมากเท่าไร ก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันมากขึ้น
PA+ หมายถึงป้องกัน UVA ได้ 2-4 เท่า
PA+++ หมายถึงป้องกัน UVA ได้ 8-16 เท่า
PA++++ หมายถึงป้องกัน UVA ได้มากกว่า 16 เท่า
PA++ หมายถึงป้องกัน UVA ได้ 4-8 เท่า
Chou
ตัวกันแดดเป็นเนื้อครีมสีขาวไม่มีส่วนผสมของรองพื้น มีส่วนผสมของ spf 50 pa+++ เป็นครีมกันแดดที่ถือได้ว่าเหมาะกับประเทศไทยเลยค่ะ ตัวครีมมีส่วนผสมของโสม ที่จะช่วยบำรุงผิวหน้าไปในตัว ที่สำคัญที่สุดก็คือไม่ว่าจะทาปริมาณ 2 ข้อนิ้ว ก็ไม่ทำให้ผิวมันเยิ้ม ไม่ทิ้งคราบขาว ซึมซาบไว และปกป้องผิวหน้าจากแสงแดดได้ดีจริงๆ นอกจากนั้นแล้วตัวกันแดดยังเป็นมิตรกับธรรมชาติไม่ทำลายปะการัง
หรือสัตว์น้ำในทะเลเลยค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น