ประโยชน์ของการต่อขนตา

 


ช่วงนี้สาว ๆ คงกำลังนิยมต่อขนตา เพราะสามารถเปลี่ยนบุคลิกของเราเลยก็ว่าได้ ด้วยผลลัพธ์ที่ช่วยทำให้ดวงตาดูโดดเด่นโดยไม่ต้องปัดมาสคาร่า การต่อขนตายังสร้างความสะดวกให้การแต่งหน้าให้ง่ายและรวดเร็วขึ้นอีกด้วย ช่วยปัญหาการติดขนตาไม่ตรงหรือไม่ถนัดติดขนตา และเหมาะอย่างมากเลยสำหรับคนที่ต้องไปทำกิจกรรมทางน้ำ หรือกิจกรรมกลางแจ้ง

ข้อดี

  1. ปัญหาขนตาสั้น ดัดขนตาด้วยที่ดัดขนตาแล้วรู้สึกว่าไม่เวิร์ก ใช้มาสคาร่าตัวไหนก็ยังไม่ตอบโจทย์ การต่อขนตาจะช่วยตัดปัญหานี้ได้
  2. การต่อขนตาช่วยประหยัดเวลาในการแต่งหน้า
  3. การต่อขนตาช่วยปรับลุคให้ใบหน้าดูหวานขึ้นอัตโนมัติ แม้จะไม่แต่งหน้าเลย แต่การมีขนตาที่งอนสวยอย่างเป็นธรรมชาติตลอดเวลาจะช่วยยกระดับให้ใบหน้าดูดี

ข้อเสีย

  1. หลังต่อขนตาอาจรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติเหมือนเดิม บางคนจะรู้สึกเหมือนมีอะไรบังตาหรือรบกวนสายตาตลอดเวลา
  2. หากเผลอกะพริบตาแรงๆ หรือเผลอขยี้ตาจะทำให้รู้สึกเจ็บเหมือนมีอะไรมาทิ่มเปลือกตา ซึ่งสร้างความรำคาญไม่น้อย
  3. เมื่อต่อขนตาแล้ว การล้างหน้าด้วยออยล์หรือคลีนซิ่งบาล์มจะทำไม่ได้เลย
  4. ขนตาจริงอาจเสี่ยงต่อการหลุดหรือขาดได้หากมีการดึงหรือเช็ดขนตาที่รุนแรงเกินไป

นอกจากที่สาว ๆ ได้ทำการต่อขนตาแล้วก็จะมีคำถามที่หลายคนสงสัยคือ " วิธีการดูแลหลังการต่อขนตา " ซึ่งขนตาจะอยู่กับเราได้นานเท่าไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับการดูแลนี่แหละค่ะ ควรดูแลรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ทำให้เกิดการแพ้หรือระคายเคืองได้ โดยมีวิธีการดูแลรักษาดังนี้
  • ล้างหน้าในแนวตั้ง ลูบลงเบา ๆ ตามแนวขนตาเพื่อถนอมขนตา
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำ 3 ชั่วโมงหลังจากการต่อขนตา เพื่อให้ขนตาติดทนนานยิ่งขึ้น
  • ไม่ขยี้ตา ไม่ดึงขนตา หรือสัมผัสแรง ๆ
  • ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะจะทำให้กาวเสื่อมสภาพเร็ว
  • ควรเข้ามารับการตรวจเช็ค และซ่อมบำรุงขนตาที่หลุดไปทุก 2-3 สัปดาห์
  • ใช้หวีแปรง สำหรับปัดขนตา เพื่อจัดทรง จะทำให้ขนตาไม่พันยุ่ง และคงสภาพ คงความสวย

ลักษณะของขนตา จำแนกตามลักษณะ / วัสดุ

  1. ขนตาเส้นไหม (ไหมสังเคราะห์) ให้มีลักษณะเส้นเรียวเล็ก สีดำเงา น้ำหนักเบา (สัมผัสแล้วรู้สึกนุ่มลื่น) ลักษณะเส้นขน ปลายสองด้านเรียวบาง
  2. ขนตา มิงค์ (ไหมสังเคราะห์ให้ลักษณะนิ่มคล้ายขนของมิ้งค์) สีดำด้านน้ำหนักเบา – เบามาก (สัมผัสแล้วรู้สึกนุ่มลื่น) ลักษณะเส้นขน ปลายสองด้านเรียวบาง
  3. ขนตาจากเส้นผม ทำจากเส้นผมแท้ สีดำเงา /ดำด้าน แล้วแต่ยี่ห้อ ค่อนข้างมีน้ำหนักมาก (สัมผัสประเภทเดียวกับผม) ลักษณะเส้นขน ส่วนใหญ่ จะเป็นปลายตัดทั้งสองด้าน
  4. ขนตาไฟเบอร์ (พลาสติกสังเคราะห์) สีดำเงา/ดำด้าน น้ำหนักมาก (สัมผัสแข็งกว่าเส้นผม) ลักษณะเส้นขน โคนเส้นตัด ปลายเรียว

ชนิดของรูปแบบการต่อขนตา

  • Classic จะเป็นการต่อขนตาแบบ 1 เส้นขนตาปลอมต่อ 1 เส้นขนตาจริง (เส้นต่อเส้น)
  • 2D เป็นการต่อขนตาแบบที่หนากว่าแบบวอลลุ่มแต่ก็ยังบางกว่าแบบคลาสสิค โดยจะต่อ 1 ช่อ (2เส้น) ต่อ 1 เส้นขนตาจริง
  • Volume เป็นการต่อขนตาที่จะใช้ขนตาแบบวอลลุ่มที่ช่อนึงจะมี 3-5 เส้นวางบนขนตาจริงเรา 1 เส้น

  • Hybrid เป็นการต่อขนตาที่ผสมผสายระหว่างแบบ Classic + Volume โดยจะมีทั้งแบบเส้นต่อเส้นสลับกับแบบเส้นต่อช่อ
ข้อมูลและภาพจาก : www.gowabi.com



ขนาดของขนตา

  1. 0.15 มม. ขนาดเท่าขนตาจริง
  2. 0.10 มม. ขนาดเล็กลงมาหน่อย นิยมนำสองเส้นรวมกันเพื่อนำมาทำวอลลุ่ม
  3. 0.07 0.06 และ 0.05 จะนำมาทำวอลลุ่มให้กับขนตา มักใช้ 3-5 เส้นต่อหนึ่งช่อ
ผู้ที่สวมแว่นตา แนะนำให้ใช้ความยาวไม่เกิน 0.11 มิลลิเมตร
ขนตาบางและชี้ลง ควรต่อที่มีความหนา 0.1 มิลลิเมตร

ลักษณะการต่อขนตา

  • แบบธรรมชาติ ใช้ขนตาที่มีความยาวกว่าขนตาจริง 1 มิล ส่วนมากสลับแซมด้วยขนตาที่ยาวกว่าขนตาจริงไม่เกิน 2 มิล
  • แบบคิวตี้ ใช้ขนตาที่มีความยาวกว่าขนตาจริง 1 มิล สลับแซมด้วยขนตาที่ยาวกว่าขนตาจริงไม่เกิน 2 มิล และขนตาที่ยาวกว่าขนตาจริง 3 มิล เพียงเล็กน้อย
  • แบบเซ็กซี่ ไล่ความยาวขึ้นเรื่อย ๆ จนยาวสุดที่หางตา
  • แบบกอร์เจิส ต่อคล้าย ๆ กับคิวตี้ เพิ่มจำนวนเส้น เน้นความหนามากขึ้นบริเวณหางตา
  • แบบธรรมชาติและคิวตี้ ใช้ขนตาที่มีความยาวไม่เกิน 1-2มิล ต่อสลับกัน
  • แบบเซ็กซี่ เส้นหางตา ยาวกว่าขนตาจริง 2-3 .มิล ต่อสลับกัน
  • แบบกอร์เจิส เส้นขนตาจนถึงหางตายาวกว่าขนตาจริง

การเลือกรูปแบบของการต่อขนตา

  1. รูปตา ความยาวของดวงตา ชั้นหนังตา ระยะห่างระหว่างดวงตาและคิ้ว
  2. ลักษณะของขนตาธรรมชาติ ของลูกค้า คือ ปริมาณเส้นขนตา ความยาวของขนตา ความหนาเส้นขน ความโค้งงอน
  3. บุคลิกและภาพลักษณ์ของแต่ละคน การต่อขนตาให้ออกมาสวย ต้องต่อให้เข้ากับบุคลิกภาพของผู้ต่อ เพื่อจะได้เหมาะสมรับกับใบหน้าและเพิ่มเสน่ห์ให้ได้มากที่สุด

รูปตา

  • ตาอัลมอนด์ เป็นดวงตาที่ดูแล้วจะนึกถึงเมล็ดอัลมอนด์ เพราะจะดูกลมโตและยาวรี ดูมีเสน่ห์เหมาะกับทุกขนตา

  • ตาทรงกลม เป็นดวงตาที่กลมโต การต่อขนตาที่จะทำให้เข้ากับตาก็จะหนีไม่พ้นการต่อแบบธรรมชติ เพื่อที่จะให้ขนตานั้นไม่ดูหนาจนเกินไป

  • หนังตาตก เป็นรูปตาที่เราสามารถ สังเกตได้โดยง่ายเพราะจะมีลักษณะบริเวหนังตานั้นตกลงทำให้ดูแก่ก่อนวัย การต่อขนตาควรเน้นความยาวช่วงตรงกลางดวงตา

  • ตาเฉียงขึ้น เราจะพบเป็นส่วนมากในหมู่เอเชีย เป็นดวงตาอีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถต่อขนตาได้ในทุกสไตล์

  • ตาเฉียงลง เป็นรูปตาที่มองแล้วทำให้หน้าดูเศร้า ไม่สดใส การต่อขนตาควรเน้นความยาวบริเวณหางตาก็จะช่วยยกหางตาให้ดูดีขึ้น เพราะจะเป็นลุคให้ดูเฉี่ยว เป็นสาวมั่นใจไปเลย

  • ตาชั้นเดียว เป็นอีกหนึ่งลักษณะดวงตาที่พบกันบ่อยมากจะมีลักษณะดวงตายาวรี การต่อขนตาควรเน้นความยาวช่วงตรงกลางดวงตา จะช่วยให้ดวงตาดูกลมโต
อ้างอิงภาพจาก : Pinterest


เป็นอยาางไรกันบ้างค่ะ ตอนนี้เราก็ได้รู้กันแล้วว่าการต่อขนตานั้นไม่ได้มีรูปแบบเดียว เพราะการต่อขนตาที่ดี ยังต้องใช้ขนตาดี ใช้กาวดี ทนไม่แพ้ ไม่ปม ไม่หนักและร้านที่ให้บริการการต่อขนตา ช่างต่อขนตาต้องมีความชำนาญ และคิดถึงความปลอดภัยของดวงตาของเราเสมอทำความสะอาดทุกอย่างที่ต้องสัมผัส ฆ่าเชื่ออุปกรณ์ หรือสถานที่ต้องสะอาด




ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม